ย้อนกลับไปดูเหตุการณ์ในช่วง 2 ปีกว่าที่ผ่านมาว่ามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นบ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2021 ที่แทบจะเรียกได้เลยว่าเป็นจุดพีคสูงสุดของวิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของ Covid-19 ที่นอกจากจะส่งผลกระทบด้านร่างกายและระบบสาธารณสุขทั่วโลกแล้ว ยังเป็นเหตุให้ภาวะเศรษฐกิจพากันดำดิ่งลงไปอย่างน่าใจหาย เนื่องจากวิถีการใช้ชีวิตของมนุษย์ที่เปลี่ยนไปจึงทำให้หลาย ๆ อุตสาหกรรมได้รับผลกระทบจนแทบปิดตัว
แต่ในวิกฤติก็มีโอกาส เรียกได้ว่าถ้าใครมองเห็นช่องทางและรู้จักคาดการณ์อย่างกว้างไกลคงจะได้ผลประโยชน์จากส่วนนี้ให้กลับมากอบกู้ธุรกิจได้อย่างรุ่งเรือง สำหรับใครที่ยังมองไม่ออก หันไปทางไหนก็มืดแปดด้าน เราจะพาส่องเทรนด์ธุรกิจที่คาดการณ์ไว้ล่วงหน้า 10 ปี ให้ได้มีไอเดียไปฟื้นฟูธุรกิจให้พร้อมต่อสถานการณ์ในอนาคตกัน
เทรนด์ประกอบธุรกิจ E-Commerce มั่นใจ โตแน่
อย่างที่เห็นกันมาในช่วงหลาย ๆ ปีนี้ว่าธุรกิจที่เติบโตได้อย่างก้าวกระโดดสวนทางกับสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่มั่นคงนั้น คือธุรกิจประเภท E-Commerce จากตัวเลขสถิติที่บ่งชี้ว่ามีอัตราการเติบโตมากถึง 58% ประกอบกับวิถีการดำเนินชีวิตของผู้คนที่เปลี่ยนไปตามยุคสมัย รวมไปถึงสถานการณ์ที่บีบบังคับให้ต้องใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ทดแทนการออกไปใช้ชีวิต จึงไม่แปลกที่จะทำให้ธุรกิจประเภทนี้ได้รับความนิยม เพราะเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคและตอบสนองความสบายได้อย่างครบครันนั้นเอง ซึ่งสินค้าที่นิยมเปิดในรูปแบบธุรกิจ E-Commerce นั้น ได้แก่ ของใช้ภายในบ้าน, เฟอร์นิเจอร์, เสื้อผ้า, อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และ สื่อ Entertainment ภายในบ้าน เช่น หนัง หรือ เพลง เป็นต้น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าแนวคิดธุรกิจจะต้องวนอยู่กับสิ่งเหล่านี้ บอกเลยว่าถ้าใครจับจุดได้ มีไอเดียที่นอกกรอบ อาจได้เปิดตลาดสินค้าใหม่เป็นรายแรกก็ได้!
เทรนด์ธุรกิจเจาะตลาด VR (Virtual Reality) และ AR (Augmented Reality)
จากแนวโน้มสถานการณ์ในปัจจุบันที่ทำให้หลาย ๆ คนแพนิค จนถึงขั้นไม่กล้าออกใช้ชีวิตข้างนอกที่พักอาศัย อย่างไรก็ตาม มนุษย์ไม่สามารถใช้ชีวิตวนเวียนในสภาพแวดล้อมเหมือนเดิมได้ในระยะเวลานาน เพราะนอกจากจะทำให้เกิดอาการเบื่อหน่าย อาจพัฒนาให้กลายเป็นโรคซึมเศร้า และเข้าสังคมไม่ได้ในที่สุด จึงไม่แปลกที่อีกใน 2-3 ปีข้างหน้าจะมีสินค้าที่ให้ความรู้สึกเสมือนจริงเข้ามาตีตลาดกันมากขึ้น ซึ่งในปัจจุบันเองก็เริ่มมีวางขายให้เห็นกันบ้างแล้ว แถมยังได้เสียงตอบรับที่ค่อนข้างดี จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ในอนาคตเราอาจได้พบกับสินค้าที่ได้รับการพัฒนาร่วมกับเทคโนโลยีเสมือนจริงให้เป็นได้มากกว่าแก็ดเจ็ตเพื่อความบันเทิง
เทรนด์ธุรกิจเชิงนวัตกรรมทดแทนพลังงาน
จะปีไหนยุคไหน เทรนด์รักษ์โลกก็ยังคงสำคัญและได้รับความสนใจอยู่เสมอ แน่นอนว่าในอนาคต 5-10 ปีต่อจากนี้ เรื่องของการดูแลโลกและหาพลังงานสะอาดมาทดแทนจะกลายเป็นเรื่องที่สำคัญยิ่งกว่าเดิม ตัวอย่างธุรกิจที่เห็นได้ชัดที่สุดคงเป็นธุรกิจประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้าและธุรกิจยานยนต์ ที่เริ่มดึงพลังงานสะอาดมาใช้ทดแทน เพื่อช่วยลดมลภาวะ อีกทั้งยังเป็นหนทางเลือกช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เช่น โคมไฟโซล่าเซลล์ นวัตกรรมเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์ให้เป็นไฟฟ้าที่จะช่วยลดภาระค่าไฟต่อเดือนไปได้อีกมาก หรือจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่หลาย ๆ เจ้าเริ่มนำเข้ามาในประเทศไทย ให้ได้ใช้พลังงานไฟฟ้าในการขับเคลื่อนทดแทนก๊าซและน้ำมัน ที่นอกจากจะช่วยลดมลภาวะทางอากาศและโลกแล้ว ยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายที่ต้องเติมเชื้อเพลิงอีกด้วย คุ้มค่าสุด ๆ!