การเคลือบแก้วถือเป็นการดูแลรักษารถยนต์แบบหนึ่งที่คนรักรถหลายคนเลือกใช้ เพราะนอกจากจะช่วยทำให้รถยนต์สุดรักดูสวยเหมือนเป็นรถใหม่แล้ว การเคลือบยังสามารถช่วยปกป้องสีและตัวถังของรถยนต์จากฝุ่นละอองและสะเก็ดหินต่าง ๆ ซึ่งจะทำให้พื้นผิวเหล่านี้ใช้งานได้ยาวนานขึ้นอีกด้วย ซึ่งในวันนี้ หากใครนำรถยนต์ไปเคลือบแก้วและอยากดูแลรักษาให้การเคลือบให้เหมือนใหม่ตลอดเวลาล่ะก็ มาดูกันดีกว่าว่าเราจะรักษาสารเคลือบบนพื้นผิวรถยนต์ได้อย่างไร
หมั่นใช้น้ำสะอาดเช็ดคราบสกปรกบนพื้นผิว
ผู้ใช้รถยนต์หลายคนอาจคิดว่า หากนำรถไปเคลือบแก้วก็ไม่ต้องดูแลรักษารถมาก ซึ่งความคิดเช่นนี้ถือเป็นความคิดที่ผิดและอาจทำให้การเคลือบแก้วไม่มีประสิทธิภาพที่ควร เพราะต่อให้รถยนต์เคลือบแก้วมาแค่ไหน หากเจ้าของไม่ทำความสะอาดเลย ผิวที่เคลือบก็จะเสื่อมสภาพและทำให้การเคลือบแก้วไม่คุ้มอย่างที่คิด ซึ่งการนำผ้าจุ่มน้ำสะอาดหมาด ๆ มาเช็ดคราบสกปรกนั้นจะช่วยให้รถยนต์ของคุณปราศจากคราบสกปรกและฝุ่นต่าง ๆ อีกทั้งยังช่วยไม่ให้คราบฝังแน่นจนสายเกินแก้อีกด้วย
ไม่ควรใช้แปรง หรือ ผลิตภัณฑ์ใด ๆ ก็สามารถขัดสีรถได้
หากนำรถไปเคลือบแก้วและอยากดูแลรักษาให้ดี ข้อนี้ถือว่าสำคัญมาก เพราะ อย่าลืมว่าการเคลือบแก้ว คือ การนำสารต่าง ๆ มาเคลือบพื้นผิวรถยนต์เพื่อป้องกันการฝังตัวของคราบสกปรกและสารพัดรอยขีดข่วน ดังนั้น หากนำอุปกรณ์ทำความสะอาดที่ไม่ถนอมผิวรถยนต์อย่างแปรง หรือ ที่ขัดมาใช้ก็อาจทำให้สารที่เคลือบแก้วอยู่บางลง และไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร
เป็นอย่างไรกันบ้างกับการดูแลรักษาการเคลือบแก้วเบื้องต้นที่นำมาฝากในวันนี้ หวังว่าจะช่วยให้เจ้าของรถยนต์ทุกคนได้มีพื้นฐานการดูแลรถยนต์ได้ดีไปอีกขึ้น ซึ่งนอกเหนือจาก 2 ข้อนี้แล้ว เราขอเสริมอีกว่า เจ้าของรถยนต์ทุกคนควรนำรถไปตรวจสภาพและเช็กพื้นผิวของตัวถังรถยนต์เป็นประจำ เพราะหากไม่ตรวจสภาพรถยนต์ให้ตรงเวลาแล้ว เราไม่มีทางรู้เลยว่าผิวของรถยนต์จะกร่อนหรืออายุการใช้งานสั้นลงเมื่อไหร่ ซึ่งหากไม่เช็กให้ดี ต่อให้รถยนต์เคลือบแก้วไป ก็จะไม่ได้ประสิทธิภาพดีเท่าที่ควรเช่นกัน